การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน
การประเมินการเรียนรู้ จะต้องให้ข้อมูลย้อนกลับว่าการจัดการเรียนรู้บรรลุพันธกิจหรือไม่
มีความจำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง
เพื่อการบรรลุเป้าหมายของโปรแกรมการศึกษา
การประเมินเพื่อพัฒนาประสิทธิผลในการจัดการเรียนรู้ เขียนเป็นแผนภาพ ได้ดังนี้
ภาพประกอบที่ 8 วัฎจักรการประเมินเพื่อพัฒนาประสิทธิผลในการจัดการเรียนรู้
ภาพประกอบที่ 8 วัฎจักรการประเมินเพื่อพัฒนาประสิทธิผลในการจัดการเรียนรู้
Ghaye,
T (1995) เสนอแนวคิดการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน จะต้องพิจารณาคำถาม5 ข้อ คือ
1. คำถามเกี่ยวกับเวลา
การปรับปรุงควรจะเกิดขึ้นเมื่อไร
ผลของการปรับปรุงควรจะได้ผลอย่างชัดเจนเมื่อไร
2. คำถามเกี่ยวกับขนาดของาน
ขอบเขตการปรับปรุงควรมีขนาดเท่าไร
เพียงใด
ผู้เกี่ยวข้องมีกี่คน
จะต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง
3.
คําถามเกี่ยวกับความไม่แน่นอน
จะแน่ใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่
ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม การปฏิบัติแรงจูงใจ หรือ ทิศทางใหม่เป็นการปรับปรุงจริง ๆ
จะตรวจสอบจากหลักฐานใดว่ามีการปรับปรุงเกิดขึ้นแล้ว
มีความเข้าใจในความเกี่ยวโยงกันระหว่างสิ่งที่รู้สึกว่าพัฒนาแล้วกับการพัฒนาที่ชัดเจน
เมื่อมองในแง่ของคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน
การพัฒนาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นจริง
4.
คําถามเกี่ยวกับการเมืองในโรงเรียน
การเมืองในโรงเรียนมีความสําคัญต่อความพยายามในการปรับปรุง
เนื่องจากการปรับปรุงมี แนวคิดพื้นฐานมาจากค่านิยมและเป็นกระบวนการที่มีระบบ
บุคคลในองค์กรจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ต้องการที่จะปฏิบัติตามแนวคิดของตน
การเข้าใจการเมืองที่อยู่เบื้องหลังความพยายามในการปรับปรุงยอมรับว่าในโรงเรียนย่อมมีการช่วงชิงกันระหว่างกลุ่มผลประโยชน์
การทบทวนจะทําให้เกิดคําถาม การเมือง เพราะการปรับปรงเกี่ยวกับ “ผลประโยชน์” “อํานาจ” และการแก้ปัญหาเรื่อง
ความขัดแย้ง เมื่อมีการปรับปรุง คําถามคือ ใครจะได้ผลประโยชน์อะไร ที่ไหน อย่างไร
เมื่อไร และเพราะเหตุใด
5.
คําถามเกี่ยวกับการลงลึกในการปฏิบัติการ
ถ้าการปรับปรุงมีจุดอ่อนและมีแรงกดดันจากภายนอก
การปรับปรุงก็จะมีลักษณะฉาบฉวย นทาให้ละเลยสิ่งที่เป็นรากฐานที่ควรให้ความสนใจ
สิ่งสําคัญจะต้องทําความเข้าใจว่า การปรับปรุงโรงเรียน
การปฏิรูปในโรงเรียนแตกต่างกัน
โดยที่การปฏิรูปมีผลลึกซึ้งและเป็นการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาที่มีผลกระทบต่อทุกคนในองค์กรณ์
การเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งนี้
มักจะเกิดจากการปรับปรุงโครงสร้างและอิทธิพลทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
การเย้นมี่พัฒนาภายในมากเกินไปจะไม่ไปสู่การปฎิรูปโรงเรียน
การปรับปรุงในวงที่กว้างออกไป
การปะเมินที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีความชัดเจนของจุดมุ่งหมาย
จุดมุ่งหมายในการเรียนรู้เป็นข้อความเกี่ยวกับการศึกษาที่แสดงถึงความมุ่งมั่นเจตนาที่ตั้งใจให้เกิดขึ้น
เช่น ความสามารถในการแก้ปัญหาทักษะความคิดที่มีจิตวิญญาณ
ทักษะด้านการสร้างสรรค์และ นวัตกรรมเป็นต้น
รูปแบบการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามแนวคิด Outcome Driven Model
ตรวจสอบความเข้าใจ
และการสรุปความรู้ ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการจัดการเรียนรู้
ใช้แนวทางประเมินการเรียนรู้ ตามแนวคิด Outcome
Driven Model
สรุปเป็นแผนภาพได้ดังนี้
ภาพประกอบที่ 10 แนวทางการประเมินการเรียนรู้ ตามเเนวคิด Outcome Driven Model
ที่มา ปรับจาก Chatterji, Madhabi.(2003) Designing and Using tools for educational assessment. Pearson Edocation,Inc.p.30
สรุปเป็นแผนภาพได้ดังนี้
ภาพประกอบที่ 10 แนวทางการประเมินการเรียนรู้ ตามเเนวคิด Outcome Driven Model
ที่มา ปรับจาก Chatterji, Madhabi.(2003) Designing and Using tools for educational assessment. Pearson Edocation,Inc.p.30



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น