ตรวจสอบและทบทวน (Review and Reflect on your learning)
ในการเขียนแผนจัดการเรียนรู้ขั้น
การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล ปฏิบัติการเขียนแผน
จัดการเรียนรู้ด้วยเขียนแผนการสอนตามรูปแบบ the STUDIES Model ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่สอดคล้อง กับสาขาวิชาเอกที่เรียน
โดยกําหนดสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ และจัดหาหรือผลิตสื่อการเรียนรู้ประกอบบทเรียน
นำข้อมูลจากบทที่ 1 คือมีตัว S T U D I E S มาพร้อมความหมาย
S : กำหนดจุดหมายการเรียนรู้
(setting learning goals) การกำหนดจุดหมายการเรียนรู้ ผู้เรียนต้องระบุจุดหมายการเรียนรู้
(goals) ด้วยการระบุความรู้และการปฏิบัติ โดยการระบุ
ความรู้ในรูปของสารสนเทศ (declarative knowledge) และระบุทักษะ
การปฏิบัติหรือกระบวนการ (procedural knowledge) จุดหมายการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของบทเรียน
ปริมาณเนื้อหาสาระหรือความรู้สูงสุด
แต่หมายถึงความคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งและเจตนาที่จะให้ผู้เรียนแสดงถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้
T : วิเคราะห์ภาระงาน (Task
Analysis) ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ได้ความรู้(knowledge) ทักษะ (Skill) และเจตคติ (Attitude) ทีเกี่ยวข้อง
เพื่อการอธิบายภาระงานหรือกิจกรรมทีช่วยน้าทางผู้เรียนไปสู่จุดหมายการเรียนรู้
การวิเคราะห์งานจะเขียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KSA diagram คือ
Knowledge-Skill-Attitudes
U : การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล
(Universal Design For Instruction UDI) เป็นการออกแบบการสอนที่ครูมีบทบาทเป็นผู้ดำเนินการเชิงรุก(Proactive)
เกี่ยวกับการผลิตและหรือ จัดหาจัดทำหรือชี้แนะผลิตภัณฑ์การศึกษา(educational
producte computers, websites, software, texbooks, and lab equipment)) และสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ (dormitories, ciassrooms, student
union buildings, libraries, and distance learning courses). ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
D : การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล
(Digital Learning) การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลเป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่าย
เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์(Social networking) การแชร์ภาพ
การใช้อินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่ เป็นต้น
การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีนัยมากกว่าการรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
แต่ยังครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆเกี่ยวกับเนื้อหา(content) จริยธรรม
สังคม และการสะท้อน(Reflection) ซึ่งฝังอยู่ในการเรียนรู้
การทำงานและชีวิตประจำวัน
I : การบูรณาการความรู้
(Integrated Knowledge) การเชื่อมโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในศาสตร์ต่างๆ
ของรายวิชาเดียวกันหรือหลากหลายวิชาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง
ในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ(Integrated learning Management) เป็นกระบวนการจัดประสบการณ์โดยเชื่อมโยงสาระความรู้ของศาสตร์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ และเจตคติ
E : การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน(Evalution
to Improve Teaching) การประเมินการเรียนรู้ของตนเอง
โดยกำหนดค่าคะแนนจากการวิเคราะห์การประเมินการเรียนรู้ด้านความรู้(Cognitive
Domain)ของบลูม (Bloom’s Taxonomy) การประเมินตามสภาพจริงและการประเมินจากแฟ้มสะสมงาน
เป็นการตรวจสอบการบรรลุจุดหมายการเรียนรู้
S : การประเมินอิงมาตรฐาน
(Standara Based Assessment) การประเมินคุณภาพการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
โดยใช้แนวคิดพื้นฐานโครงสร้งการสังเกตผลการเรียนรู้ (Structure of Observed
Learning Outcomes L: SOLO Taxonomy) มากำหนดระดับคุณภาพผลสัมฤทธ์ทางการเรียน
เป็นการตรวจสอบคุณภาพ การเรียนรู้
รวมถึงมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก
กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นที่
1
N (Needs Assessment ) เป็นการกล่าวถึง จุดหมายการเรียนรู้
S : กำหนดจุดหมายการเรียนรู้
(Setting learning goals)
1.ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับการต่อวงจรไฟฟ้า
แล้วถามนักเรียนว่าทำไมกระแสไฟฟ้าจึงไหลผ่านสายไฟมายังหลอดไฟได้ (เพราะมีตัวนำฟ้า ที่ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปได้)
T : วิเคราะห์ภาระงาน
(Task Analysis)
1.
ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับตัวนำและฉนวนไฟฟ้า
โดยให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยใช้คำถามดังนี้
- ฉนวนไฟฟ้าและตัวนำไฟฟ้าคืออะไร
(ตัวนำไฟฟ้าเป็นวัสดุที่กระแสไฟฟ้าผ่านได้
ส่วนฉนวนไฟฟ้าเป็นวัสดุที่กระแสไฟฟ้าผ่านไม่ได้ )
-
ยกตัวอย่างของฉนวนไฟฟ้าและตัวนำไฟฟ้า
มาอย่างละ 3
(ตัวอย่าง เช่น ตัวนำไฟฟ้า ได้แก่ ทองแดง อลูมิเนียม และเงิน
ส่วนฉนวนไฟฟ้าได้แก่ ไม้แห้ง พลาสติก และแก้ว)
2. ครูแบ่งกลุ่มให้นักเรียนกลุ่มละ 4-5 คน แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาความรู้เรื่อง
ตัวนำและฉนวนไฟฟ้า จากหนังสือเรียนและใบความรู้ที่1
3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำการทดลอง เรื่อง
ตัวนำไฟฟ้าและฉนวนไฟฟ้า แล้วบันทึกผลการทดลองลงในสมุด
4.
ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำผลการทดลอง เรื่อง
ตัวนำไฟฟ้าและฉนวนไฟฟ้ามานำเสนอหน้าชั้นเรียน
5. ครูก็อธิบายเพิ่มเติมว่า
ตัวนำไฟฟ้าเป็นวัสดุที่กระแสไฟฟ้าผ่านได้
ส่วนฉนวนไฟฟ้าเป็นวัสดุที่กระแสไฟฟ้าผ่านไม่ได้
6. ให้นักเรียนศึกษาใบงานที่1 เรื่อง ตัวนำและฉนวนไฟฟ้า
7. ให้นักเรียนค้นหาความรู้เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต
8. ครูสุ่มนักเรียน 2-3
คนออกมานำเสนอใบงานของตนเอง ครูช่วยอธิบายเสริมประกอบใบงานที่ 1
ขั้นที่ 2 P (practice ) หมายถึง การกระทำหรือการปฏิบัติ
U : การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล(Universal
Desing for Instruction UDI) สภาพแวดล้อมในห้องเรียน
-
ห้องเรียนที่สะอาด สภาพอากาศถ่ายเท
-
มีสื่อการสอนที่ดี และทันสมัย
-
มีสื่อความรู้เพิ่มเติม คือของใช้ในชีวิตประจำวันหรืออุปกรณ์การเรียนในห้อง
D : การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning)
- โดยการใช้อินเทอร์เน็ตในการสืบค้นข้อมูลหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของตัวนำและฉนวนไฟฟ้า
ทั้งในด้านเนื้อหาและวีดีโอต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนเห็นภาพช่วยเพิ่มความเข้าใจและได้เรียนรู้เนื้อหาใหม่ๆ
มากขึ้น ส่วนสำคัญของการเรียนรู้สื่อดิจิทัลคือช่วยให้ผู้เรียนเข้าถึงเนื้อหาเน้นๆมากขึ้น
I : การบูรณาการความรู้ (Integrated Knowledge)
ใช้การบูรณาการแบบสอดแทรก(Infusion) การเรียนรู้แบบนี้ครูจะนำเนื้อหาของวิชาต่างๆ
ความรู้ประสบการณ์ เหตุการณ์ปัจจุบัน มาสอดแทรกในรายวิชามาปรับโดยใช้หลักการ
1.
เปิดโอกาสนักเรียนรู้ข่าวสารใหม่ในเรื่องที่เกี่ยวกับความรู้อื่นๆ
โดยให้ค้นคว้าเรื่องที่สนใจในรายวิชาที่เกี่ยวข้อง
2.
ให้นักเรียนฝึกวิเคราะห์ปัญหาและเหตุด้วยตนเอง
3.
นักเรียนสามารถใช้วิชาวิทยาศาสตร์ไปต่อยอดกับความรู้ในแต่ละวิชาของนักเรียน
4.
สรุปความ จากความคิดเห็นของนักเรียน และนำเสนอแนะแนวทางให้นักเรียนไปปรับใช้
5.
ให้ห้องเรียนกว้างกับนักเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถหยิบจับสิ่งที่นักเรียนสนใจ
มาใส่ในการเรียนการสอน
ขั้นที่ 3 U (understanding) ตรวจสอบความเข้าใจตามระดับคุณภาพเมื่อเทียบกับเกณฑ์ในระดับต่างๆ
E : การประเมินปรับปรุงการสอน (Evaluation to Improve Teaching)
ให้นักเรียนร่วมกัน สรุปความรู้เกี่ยวกับตัวนำและฉนวนไฟฟ้า ให้ได้ประเด็นตามจุดประสงค์การเรียนรู้
และให้ทำใบงาน แล้วประเมินกลยุทธ์การเรียนการสอน
ของผู้สอนจากใบงานที่นักเรียนได้ทำ ในด้าน โดยมีหัวข้อการประเมินดังนี้
-
การประเมินของนักศึกษาเป็นไปตามผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวัง
- นักเรียนทราบเกณฑ์การประเมินต่าง ๆ ที่ชัดเจน
- วิธีการประเมินมีความเที่ยงตรง
เชื่อถือได้และเป็นธรรมสำหรับนักเรียน
- ผลประเมินของนักเรียน
ทันเวลาและช่วยในการปรับปรุงการสอน
-
นักเรียนสามารถเข้าถึงการอุทธรณ์และร้องเรียนได้
S : การประเมินอิงมาตรฐาน
(Standard Based Assessment)
ให้นักเรียนประเมินผลตนเองโดยพูดแสดงความรู้สึกหลังการเรียนในประเด็น
ดังนี้
1
สิ่งที่ได้จากการเรียน
2 สิ่งที่ประทับใจในการเรียน
3
สิ่งที่ต้องการทราบเพิ่มเติม
ครูถามนักเรียนว่า
วัสดุอะไรบ้างสามารถนำไฟฟ้าได้และฉนวนไฟฟ้าได้
ครูประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียนดังนี้
- สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
- สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล
- ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
- ประเมินคุณลักษณ์อันพึงประสงค์ของนักเรียน
- ประเมินสมรรถนะสำคัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น