วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ-พ.ศ.2545


  “พระราชบัญญัติ”
          พระราชบัญญัติ คือ กฎหมายที่บัญญัติขึ้นโดยประเทศ ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นผู้อนุญาต โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา และเนื้อหาของพระราชบัญญัตินั้นจะกำหนดเนื้อหาในเรื่องใดก็ได้ แต่ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
          หรือจะกล่าวให้ง่ายขึ้นได้ว่า พระราชบัญญัติ หมายถึง กฏหมายที่ออกโดยรัฐสภา (สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา) และได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศใช้ได้โดยพระมหากษัตริย์
          พระราชบัญญัติในประเทศไทยแบ่งออกเป็น ๓ ประเภทคือ
 – พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
 – พระราชบัญญัติ (ทั่วไป)
 – พระราชบัญญัติเกี่ยวด้วยการเงิน
 “การศึกษาภาคบังคับ”
          การศึกษาภาคบังคับ (อังกฤษ: Compulsory education) เป็นกฎหมายกำหนดให้เยาวชนได้รับการศึกษา และภาครัฐจะต้องจัดหาให้ ในประเทศบางประเทศ การศึกษาที่บ้าน อาจเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย
         การศึกษาภาคบังคับที่โรงเรียนประถมศึกษา ได้ทำความตกลงให้เป็นสิทธิมนุษยชนแห่ง การประกาศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนสากล พ.ศ. ๒๔๙๑ ซึ่งประเทศต่าง ๆ ในโลกส่วนใหญ่บัญญัติกฎหมายเพื่อให้ได้มีการศึกษาภาคบังคับ อย่างน้อยในระดับประถมศึกษา และมีความพยายามมากยิ่งขึ้นที่จะให้ขยายออกไปถึงในระดับ มัธยมศึกษา
    ประโยชน์ของการศึกษาภาคบังคับ
การศึกษาภาคบังคับมีประโยชน์ดังนี้
       ๑. ก่อนที่จะมีการศึกษาภาคบังคับ เด็ก ๆ มักได้เรียนรู้ทักษะอาชีพของผู้ปกครอง การศึกษาภาคบังคับแนะนำงานอาชีพอื่นๆ ที่เด็ก ๆ สามารถเรียนได้ ตัวอย่างเช่น ชั้นเรียนคณิตศาสตร์ นำพาเด็ก ๆ ไปสู่อาชีพที่ต้องใช้คณิตศาสตร์ ชีววิทยาสามารถนำพาเด็ก ๆ ไปสู่อาชีพทางด้านการแพทย์ได้ เป็นต้น
       ๒. ขัดขวางการใช้แรงงานเด็ก
       ๓. ลดจำนวนกลุ่มเด็กอันธพาลตามท้องถนน โดยที่แย่งเวลาส่วนใหญ่ของเวลาว่างของเด็ก นี่คือการช่วยลดปัญหาสังคมด้วย
เป็นข้อกฎหมายที่ออกโดยรัฐสภา ที่มีพระมาหากษัตริย์เป็นผู้อนุญาต ตั้งกำหนดไว้เพื่อให้การศึกษาของไทยเป็นไปตามร่างพระราชบัญที่กำหนดไว้


พระราชบัญญัติ
การศึกษาภาคบังคับ
พ.ศ. ๒๕๔๕

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไว้ ณ วันที, ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
เป็นปีที่, ๕๗ ในรัชกาลปัจจุบัน
                พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกล้าฯ ให้ประกาศว่า
               โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการประถมศึกษา
               พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๕ และมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
              จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและ ยินยอมของรัฐสภาดังต่อไปนี้
              มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.๒๕๔๕
              มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันกัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
              มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประถมศึกษา  ๒๕๒๓                                                       
              มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
              “การศึกษาภาคบังคับ” หมายความว่า การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของ การศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
              “สถานศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาที่จัดการศึกษาภาคบังคับ “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดามารดา หรือบิดา หรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้ อำนาจปกครอง หรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถึง บุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจำหรือที่เด็กอยู่รับใช้การงาน

             ราชกิจจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๙ /ตอนที่ ๑๒๘ ก/หน้า ๑๑/๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๕
             “เด็ก” หมายความว่า เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดจนถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่เด็กที่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับแล้ว
             “คณะกรรมการการศึกษาชั้นพื้นฐาน” หมายความว่า คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
             “คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา” หมายความว่า คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
             “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มี สถานศึกษาอยู่ในสังกัด
             “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตาม พระราชบัญญัตินี้
             “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
               มาตรา ๕ ให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณีประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา และการจัดสรรโอกาสเข้าศึกษาต่อระหว่างสถานศึกษาที่อยู่ในเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับโดยให้ปิดประกาศไว้ ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษา รวมทั้งต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็กทราบก่อนเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
               มาตรา ๖ ให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา
เมื่อผู้ปกครองร้องขอ ให้สถานศึกษามีอำนาจผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด
               มาตรา ๗ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในสถานที่ใด ๆ ในเวลาระหว่าง พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกหรือในเวลาทำการของสถานที่นั้น เพื่อตรวจสอบการเข้าเรียน ของเด็ก หากพบว่ามีเด็กไม่ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาตามมาตรา ๕ ให้ดำเนินการให้เด็กนั้น ได้ เข้าเรียนในสถานศึกษานั้นแล้วรายงานให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น แล้วแต่กรณี ทราบ
              ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการให้เด็กได้เข้าเรียนตามวรรคหนึ่งได้ให้พนักงาน เจ้าหน้าที่รายงานให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ที่พบเด็ก แล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการให้เด็กได้เข้าเรียนในสถานศึกษา
              มาตรา ๘ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวแก่ บุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง
              บัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
               มาตรา ๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกตามสมควร
               มาตรา ๑๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็น เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
               มาตรา ๑๑ ผู้ใดซึ่งมิใช่ผู้ปกครอง มีเด็กซึ่งไม่ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาอาศัยอยู่ด้วยต้องแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือองค์กรปกครองส่วนห้องถิ่นแล้วแต่กรณีภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่เด็กมาอาศัยอยู่ เว้นแต่ผู้ปกครองได้อาศัยอยู่ด้วยกับผู้นั้นการแจ้งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
              มาตรา ๑๒ ให้กระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถานศึกษาจัดการศึกษาเป็นพิเศษสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทาง ร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้ หรือมีร่างการพิการ หรือ ทุพพลภาพหรือเด็กซึ่งไม่สามารถพึ่งตนเองได้ หรือไม่มีผู้ดูแล หรือด้อยโอกาส หรือเด็กที่มี ความสามารถพิเศษให้โต้รับการศึกษาภาคบังคับด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม รวมทั้งการได้รับสิ่งอำนวยความสะดวก หรือ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดตามความจำเป็น เพื่อประกัน โอกาสและความเสมอภาคในการได้รับการศึกษาภาคบังคับ
              มาตรา ๑๓ ผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๖ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
              มาตรา ๑๔ ผู้ใดไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๙ ต้อง ระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
              มาตรา ๑๕ ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร กระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็น เหตุให้เด็กมิได้เรียนในสถานศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
              มาตรา ๑๖ ผู้โดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๑ หรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ต้องระวาง โทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
              มาตรา ๑๗ ในระหว่างที่ยังไม่มีคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
              มาตรา ๑๘ ในระหว่างที่ยังไม่มีคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา ให้ คณะกรรมการการประถมศึกษากรุงเทพมหานคร คณะกรรมการการประถมศึกษาอำเภอ หรือ คณะกรรมการการประถมศึกษากิ่งอำเภอ แล้วแต่กรณี ทำหน้าที่แทนคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา และให้สำนักงานการประถมศึกษากรุงเทพมหานคร สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอ หรือสำนักงานการประถมศึกษากิ่งอำเภอ แล้วแต่กรณี ทำหน้าที่แทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
              มาตรา ๑๙ ให้บรรดากฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ ข้อบังคับ และคำสั่งที่ออก ตามพระราชบัญญัติประถมศึกษา พ.ศ. ๒๕๒๓ ซึ่งใช้บังคับอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติในพระราชบัญญัตินี้
             มาตรา ๒๐ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ กับมีอำนาจออกประกาศเพื่อ ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
             ประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
                                                                                ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
                                                                                 พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
                                                                                           นายกรัฐมนตรี


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ดวงอาทิตย์

         ดวงอาทิตย์   (The Sun)   คือดาวฤกษ์ที่อยู่ตรงศูนย์กลางของระบบสุริยะ   มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.4 ล้านกิโลเมตร หรือ 109 เท่าของเส...